บางคนอาจจะไม่รู้ว่าเวลาที่เราดื่มกาแฟหรือชาแล้วรู้สึกขม ก็เพราะว่าทั้งชาและกาแฟมีสารแทนนินที่มีรสชาติขม นอกจากความขมแล้ว สารแทนนินยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย แต่ต้องวงเล็บให้เข้าใจว่ายิ่งดื่มชาหรือกาแฟแบบเพียวๆ ไม่มีน้ำตาลคุณจะได้ประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด
https://images.hive.blog/DQmauX3QMa8NsmAkwKUMyPGr96Kv3oFwjkHmEJ2vkEDKU5i/tannin.jpg
สารแทนนิน (Tannin) หรือบางคนอาจจะเรียกว่ากรดแทนนิน (Tannin Acid) คือสารประกอบที่ได้มาจากกรดฟีนอลิก และจัดเป็นกลุ่มสารประกอบจำพวก โฟลีฟีนอล (Polyphenols) มีคุณสมบัติในการเข้ายึดเกาะกับสารจำพวกอื่น เช่น โปรตีน เซลลูโรส สตาร์ช (Starch) และแร่ธาตุได้ง่าย จึงทำให้สารแทนนินไม่ละลายในน้ำและทนทานต่อการสลายตัวมากกว่าสารประกอบชนิดอื่นๆ ในสารกลุ่มเดียวกัน
โดยปกติแล้วเราจะพบสารแทนนินในส่วนต่างๆของพืชตามธรรมชาติ ทั้งส่วนที่กินได้และกินไม่ได้ เช่น รากไม้ เปลือกไม้ ดอกไม้ ผล ใบ และเมล็ด พืชทำการผลิตสารแทนนินรสขมออกมาเพื่อช่วยป้องกันตัวเองจากศัตรูตามธรรมชาติ ไม่ให้เข้ามาทำลายพืช ส่วนสารอาหารจำพวกแทนนินจะพบมากอาหารจำพวก ชา กาแฟ ช๊อคโกแลต และไวน์ ประโยชน์ที่สำคัญคือเป็นสารช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่นำพาไปสู่การเสื่อมสภาพของเซลล์ ช่วยลดและยับยั้งการอักเสบ ทำให้แผลฟื้นฟูได้รวดเร็ว ช่วยต่อต้านเชื้อราและแบคทีเรียได้ ในอุตสาหกรรมเครื่องหนังใช้นำมาย้อมเครื่องหนังเพื่อฆ่าเชื้อราและแบคทีเรีย ทำให้เครื่องหนังมีสีสันสวยงาม
แต่การได้รับสารแทนนินในปริมาณที่มากก็มีโทษต่อร่างกายเช่นเดียวกัน เพราะอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและทำให้บริโภคอาหารได้น้อยลง เพราะสารแทนนินไปลดการดูดซึมอาหาร โดยเฉพาะธาตุเหล็ก สำหรับผู้ที่มีภาวะขาดธาตุเหล็กจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ และการดื่มสารแทนนินในปริมาณที่มากในขณะท้องว่างอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียนได้ โดยอาจจะเติมนมเข้าไปเพื่อช่วยลดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร
Originally posted here: https://hive.blog/ocd/@andyjim/healthy-benefits-of-tannin
No comments:
Post a Comment